สไตล์ Mid-Century Modern ย้อนไปช่วงปี ค.ศ. 1950 - 1980 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ท่ามกลางการขาดแคลนวัตถุดิบในงานอุตสาหกรรม การคิดหาวัตถุดิบรวมทั้งงานดีไซน์รูปแบบใหม่ก็ได้เริ่มขึ้น จากความคิดสร้างสรรค์ของดีไซเนอร์ในการค้นหาทรัพยากรใหม่ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของงานดีไซน์สไตล์ Mid-Century Modern เสน่ห์ที่มีเอกลักษณ์เหนือกาลเวลา และดีไซเนอร์ในยุคนี้ยังคงได้รับอิทธิพลจากการออกแบบ Form Follows Function หรือเรารู้จักกันในสไตล์ “Bauhaus” ทำให้สไตล์ Mid-Century Modern เป็นงานดีไซน์ที่ลงตัวอิงกับธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็เจือกลิ่นอาย Bauhaus ด้วยรูปทรงเรขาคณิตเน้นฟังก์ชั่นเป็นหลักสำคัญ
Did you know? : Bauhaus เป็นงานออกแบบที่เน้นความเรียบง่าย ตรงไปตรงมา และชัดเจน โดยเน้นเรื่องประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก งานดีไซน์สไตล์นี้จึงมีรูปทรงเรขาคณิต มีความซับซ้อนน้อย นอกจากนี้สีเฟอร์นิเจอร์นิยมใช้ สีขาว น้ำตาล หรือดํา แต่บางครั้งก็มีการใช้แม่สีอย่างแดง เหลือง และน้ำเงินมาเน้นบางจุด
การตกแต่งสไตล์ Mid-Century Modern
การใช้ลายเส้นที่เรียบง่ายทั้งเส้นตรงและเส้นโค้ง รวมถึงรูปทรงเรขาคณิต มีการลดทอนองค์ประกอบที่เกินความจำเป็นออกไป เน้นความเป็นธรรมชาติและทันสมัยไปพร้อมๆ กัน และยังคงการใช้งานได้จริง
เฟอร์นิเจอร์ไม้
เอกลักษณ์ที่พอเรามองปุ๊ปก็สามารถรู้ได้เลยว่าเป็น Mid-Century Modern จะเน้นไปที่เฟอร์นิเจอร์เป็นหลัก ส่วนใหญ่จะมีรูปทรงเรขาคณิต แต่มีความโค้งมนหรือเส้นสายที่อิสระ ขาเก้าอี้หรือโต๊ะจะโปร่ง และทำจากวัสดุไม้หรือเหล็ก ช่วยสร้างบรรยากาศห้องให้ดูโปร่งโล่ง
กระจกโปร่งใส
จุดเด่นของการตกแต่งสไตล์ Mid-Century Modern จะเน้นการออกแบบที่มีความเรียบง่ายแต่โดดเด่น ลดทอนองค์ประกอบด้วยการเลือกใช้หน้าต่างบานใหญ่ หรือกระจกใสแทนที่ผนังเพื่อเปิดพื้นที่ให้ดูกว้างสบายตาขึ้น โปร่งโล่ง อีกทั้งยังช่วยให้บ้านดูมีมิติกว้างขึ้น และยังได้รับแสงธรรมชาติอย่างทั่วถึง
ธรรมชาติเป็นหัวใจหลัก
เนื่องจากการออกแบบสไตล์ Mid-Century Modern มาจากแถบสแกนดิเนเวียอยู่บ้าง ทำให้การตกแต่งบ้านสไตล์นี้ เน้นให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติมากที่สุด โดยการใช้ผนังกระจกแทนผนังบ้านแบบทึบเพื่อรับแสงธรรมชาติ หรือการสร้างระเบียงเล็กๆ เอาไว้นั่งเล่นชิลล์ๆ และการปลูกต้นไม้ในบ้านเพื่อให้ได้สัมผัสความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
สีเอิร์ธโทน แต่สดใส
สไตล์ Mid-Century Modern จะมีโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอยู่แล้ว ถ้าต้องเพิ่มความสดใสจะเน้นไปที่สีเหลือง และสีส้ม สีที่มีความฉูดฉาดแต่พอดี และยังคงความมีสีสัน โทนสีสบายตา จะเน้นไปที่สีเขียวมะกอก สีน้ำเงิน และโทนสีธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาล และสีครีม จากการใช้สีโทนนี้ทำให้ดูนุ่มนวลสบายตาสร้างบรรยากาศให้ดูนิ่งสงบและผ่อนคลาย และโทนสีเหล่านี้จะช่วยเสริมให้รูปทรงเรขาคณิตดูน่ามองน่าสนใจขึ้นอีกด้วย
รูปทรงเราขาคณิต
สำหรับการตกแต่งสไตล์ Mid-Century Modern รูปทรงเลขาคณิตมักเป็นที่นิยมนำมาใช้กัน เนื่องจากจะดูเรียบง่ายและยังมีความทันสมัยให้ความแปลกใหม่ และยังช่วยให้การออกแบบดูมีมิติ ชัดเจนขึ้นมาอีกด้วย
Mid-Century Modern เน้นประโยชน์ใช้สอย
สไตล์ Mid-Century Modern มักจะออกแบบห้องให้มีพื้นที่ว่างกว้างๆ แต่ถ้าหากว่าห้องของคุณมีพื้นที่แคบ แนะนำให้ใช้การกั้นห้องด้วยหน้าต่างใสแทนผนังทึบ หรือทุบผนังบางส่วนเพื่อเชื่อมพื้นที่ เพราะนอกจากช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น ทำให้ได้รับแสงธรรมชาติอย่างทั่วถึงอีกด้วย